โรคภูมิแพ้โปรตีนนมวัว ภัยใกล้ตัวเด็ก

โรคภูมิแพ้โปรตีนนมวัวอาจจะไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก เพราะตั้งแต่ พ.ศ.2528 รัฐบาลได้รณรงค์ให้คนไทยหันมาดื่มนมเพราะเชื่อว่านมเป็นแหล่งให้โปรตีนและแคลเซียมที่สำคัญ มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงบวกกับประเทศไทยเปิดรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาด้วยความเชื่อที่ว่าชาวตะวันตกมีรูปร่างสูงใหญ่เป็นเพราะดื่มนม ค่านิยมที่คนไทยมักคิดว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมผงหรือนมผสมนั้นเป็นการแสดงฐานะทางสังคมในอีกระดับหนึ่ง เพราะนมมีราคาแพงจึงทำให้คนไทยหันมาเลี้ยงลูกด้วยนมผสมมากขึ้นทว่าผลิตภัณฑ์นมเหล่านี้กลับส่งผลเสียต่อเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้โปรตีนนมวัวแพทย์บอกว่าความพยายามของผลิตภัณฑ์นมทั้งหลายในการเติมสารปรุ่งแต่งเพื่อให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับนมแม่มากที่สุด

พบเด็กที่เป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวถึงร้อยละ 2-5 และมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเด็กไทยเกิดปีละประมาณ 800,000 คน ถ้าคิดประมาณว่ามีอัตราเกิดโรคนี้ร้อยละ 3 ของทารกในแต่ละปี ประเทศไทยจะมีทารกเป็นโรคนี้ ประมาณ 24,000 คน

ความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคภูมิแพ้โปรตีนนมวัวว่าถ้าคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ทารกที่กินนมผสมจะมีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้โปรตีนนมวัวร้อยละ 20 ในขวบปีแรกทารกกินนมแม่จะมีโอกาสเกิดเพียงร้อยละ 0.5-1.5 และทารกกินนมแม่ยังอาจพบโรคนี้ได้เป็นเพราะแม่ดื่มนมวัวมากเกินไปในระยะตั้งท้องและในระหว่างให้นมลูก

คุณแม่จำนวนไม่น้อยที่เป็นกังวลและได้รับความรู้ผิดๆว่าน้ำนมน้อยต้องเสริมนมผสมให้ลูกก่อนเพื่อรอให้นมมาก่อนแล้วค่อยให้นมแม่ซึ่งการทำเช่นนั้นยิ่งทำให้น้ำนมแม่มาช้ากว่าเดิมและทำให้แม่ผลิตน้ำนมได้ไม่เต็มที่ ซึ่งทารกโดยเฉพาะระยะ 6 เดือนแรกนั้นยังอยู่ในระยะอ่อนแอ เยื่อบุทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจไม่แข็งแรงระบบภูมิคุ้มกันยังสร้างได้ไม่เต็มที่ และระบบน้ำย่อยอาหารก็ยังไม่แข็งแรงจึงง่ายต่อการติดเชื้อ เมื่อมีสารแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าไปทำให้แพ้ได้ง่ายซึ่งมีสารหลายตัวที่อยู่ในนมวัวเป็นสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เช่นเบต้าแลคโตกล็อบบูลิน (beta-lactoglobulin), อัลฟา เบต้า เคซีน (alpha and beta casein) เป็นต้น

นมแม่นอกจากจะมีสารอาหารและภูมิคุ้มกันที่ครบถ้วนซึ่งไม่มีนมชนิดใดสามารถเลียนแบบได้แล้วการให้ลูกดื่มนมจากอกแม่ ยังเป็นการเพิ่มการโอบกอดสัมผัสที่แม่ให้กับลูกมากขึ้นส่งผลให้สมองของทารกมีการเชื่อมต่อกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการทางสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของตัวเด็กได้ด้วย

ติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับภูมิแพ้ได้ที่ http://www.nakhunclinic.com