ทันตกรรมเด็กและทันตกรรมทั่วไปต่างกันอย่างไร

เชื่อแน่ว่าทุกคนจะต้องเคยเข้ารับการทำฟัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเคยไปตรวจฟัน รักษาฟันในกรณีต่าง ๆ กันมาบ้าง แล้วเคยสังเกตกันไหมคะว่า ในงานทันตกรรมจะมีการแยกระหว่างทันตกรรมทั่วไปและทันตกรรมเด็ก ถึงตรงนี้หลายคนคงเกิดคำถามอยู่ในใจ ว่าแล้วเด็กใช้การรักษาแบบเดียวกับผู้ใหญ่หรือไม่ ทำไมถึงต้องแยกการรักษาของเด็กจัดออกมาเป็นหมวดหมู่เฉพาะทาง งั้นเราไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ กับความแตกต่างของทันตกรรมทั่วไปกับทันตกรรมเด็ก

ทันตกรรมและทันตกรรมทั่วไปเหมือนกันไหม

ทันตกรรม หมายถึง การทำฟัน ซึ่งก็คือการรักษาภาวะหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับฟันและเหงือก รวมไปถึงการซ่อมแซมความเสียหายของฟัน

ทันตกรรมทั่วไป (General practitioner) คือ การตรวจสภาพช่องปากและฟัน การทำความสะอาดและการรักษาสภาพเหงือกและฟัน เพื่อให้มีสุขอนามัยที่ดีและมีอายุการใช้งานได้นาน ประกอบไปด้วย การตรวจวินิจฉัยโรคทางทันตกรรม การขูดหินปูน รักษารากฟัน และขัดฟัน รวมถึงการอุดฟันและถอนฟัน ซึ่งทันตกรรมทั่วไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งของทันตกรรมนั่นเองค่ะ

ทำไมต้องมีทันตกรรมเด็ก

อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนต้นแล้วว่า ในงานทันตกรรมนั้น ทันตกรรมเด็กถูกจัดเป็นงาน

ทันตกรรมเฉพาะทาง ทันตกรรมสำหรับเด็ก (Pedodotics) คือ การดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กตั้งแต่ขวบแรกหรือไม่เกิน 6 เดือนหลังจากที่เห็นฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นจนถึง 12 ปี ทั้งการรักษาและป้องกันโรคในช่องปาก

เหตุผลที่จำเป็นต้องมีทันตกรรมสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพราะเด็กยังมีระบบฟันที่ยังไม่สมบูรณ์แข็งแรงแตกต่างจากผู้ใหญ่ จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทั้งยังมีโอกาสฟันผุมากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากนิสัยการกินของเด็กโดยทั่วไปมีความเสี่ยงมากกว่า ทั้งนี้ เด็กแต่ละคนยังมีอุปนิสัยที่แตกต่างไปเฉพาะบุคคลอีกด้วย การป้องกันโรคในช่องปากตั้งแต่ระยะต้น ๆนั้ นเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยมากทันตกรรมเด็กจะเน้นไปที่การป้องกันฟันผุ ผ่านการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับอาการฟันผุรายบุคคล ซึ่งจะให้คำแนะนำวิธีป้องกันที่เหมาะสมกับเด็กในแต่ละคน รวมไปถึงความสะอาดในช่องปากที่สามารถเริ่มได้จากที่บ้าน การใช้ฟลูออไรด์ การเคลือบหลุมร่องฟันเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเคี้ยวผิวฟัน ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นการรักษาเชิงป้องกันทั้งสิ้น นอกจากนิ้ เป้าหมายของทันตกรรมเด็ก คือ การสร้างรอยยิ้มที่สดใสแข็งแรงให้อยู่กับเด็ก ๆ ให้ได้นาน ยิ่งเราใส่ใจสุขภาพฟันของเด็ก ๆ เร็วเท่าไหร่ พวกเขาก็จะมีรอยยิ้มที่สวยงามและแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น เด็ก ๆ จะสามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างถูกต้อง พูดออกเสียงอย่างชัดเจน นอกจากนี้ฟันน้ำนมยังเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพฟันแท้ที่ดีด้วย โดยทั่วไปแล้วหากฟันน้ำนมนั้นแข็งแรง ฟันแท้ที่จะขึ้นต่อมาก็มีแนวโน้มจะแข็งแรงเช่นเดียวกัน ฉะนั้นแล้วการมีรอยยิ้มที่สวยงามตลอดชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้หากได้รับการดูแลจากทันตแพทย์ตั้งแต่เด็กๆ

ทันตกรรมสำหรับเด็ก จะประกอบไปด้วย 3 ด้านหลัก ๆ ได้แก่

  1. ทันตกรรมเชิงป้องกัน เช่น ตรวจฟันผุ รักษาด้วยฟลูออไรด์ เคลือบหลุมร่องฟัน
  2. ทันตกรรมฟื้นฟู (Restorative dental service) เช่น อุดฟัน ใส่ครอบฟัน
  3. การเติบโตและพัฒนาการของฟัน เช่น การกัดฟัน การสบฟัน ฟันซ้อน ฟันเก

ทำไมต้องไปหาหมอฟันเด็ก

ทันตแพทย์สำหรับเด็กจะทำหัตถาการทางทันตกรรมที่เหมือนทันตแพทย์ทั่วไป ต่างกันตรงที่ทันตกรรมเด็กจะต้องเรียนเฉพาะทาง อบรมเพื่อให้พร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ด้านพฤติกรรมของเด็กทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เด็กแต่ละคนจะสนองการเข้ารับการตรวจที่แตกต่างกัน ซึ่งเด็กที่ไม่คุ้นเคยกับการไปพบทันตแพทย์จะวิตกกังวลและหวาดกลัวเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ดังนั้นทันตกแพทย์เด็กจะมีวิธีการในการจัดการกับสถานการณ์เช่นนั้นได้ดีกว่า และเหมาะสมกับวัยของเด็ก กล่าวโดยสรุป ทันตกรรมเด็กเป็นสาขาเฉพาะทางซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทันตกรรมนั่นเองค่ะ เราจึงควรเลือกทันตกรรมที่เหมาะสมกับช่วงวัยเพื่อให้ประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีที่สุด